Mixed media feedSee more
Reward card
ประเภทการให้บริการSee more
ตามพระราชบัญญัติ การขนส่งทางบก ได้มีข้อกำหนดเอาไว้ว่า รถที่จะนำมาใช้จะต้องมีสภาพมั่นคง แข็งแรง มีลักษณะ ขนาด ถูกต้องตามที่กำหนดไว้ เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับ ผู้โดยสาร ผู้ขับขี่รถคันอื่นๆ คนเดินถนน รวมทั้งสภาพแวดล้อมต่างๆ ดังนั้นจึงต้องมีการตรวจสอบรถ ให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน โดยรถที่ต้องตรวจสภาพรถก่อนเสียภาษีประจำปี คือ รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ที่มีอายุใช้งานครบ 7 ปี ขึ้นไป (นับตั้งแต่วันจดทะเบียน) รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน ที่มีอายุใช้งานครบ 7 ปี ขึ้นไป (นับตั้งแต่วันจดทะเบียน) รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ที่มีอายุใช้งานครบ 7 ปี ขึ้นไป (นับตั้งแต่วันจดทะเบียน) รถจักรยานยนต์ ที่มีอายุใช้งานครบ 5 ปี ขึ้นไป (นับตั้งแต่วันจดทะเบียน) โดยที่สามารถดูวันที่จดทะเบียนได้จากในเล่ม คู่มือรถสีน้ำเงิน ที่กรมการขนส่งเป็นคนออกให้ หรือดูจากสำเนาคู่มือทะเบียนรถก็ได้ และเราสามารถนำรถเข้าตรวจสภาพที่ ตรอ. ล่วงหน้าได้ ไม่เกิน 3 เดือนก่อนวันหมดอายุภาษีประจำปี ตรอ. ย่อมาจาก สถานตรวจสภาพรถเอกชน ซึ่งได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก เพื่อใช้ตรวจสภาพรถ ว่ามีความพร้อมในการใช้งานตามข้อกำหนดของทางกรมการขนส่งฯหรือไม่การที่มี ตรอ. จะช่วยเพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้ที่มีรถยนต์ หรือมอเตอร์ไซค์ ไม่ต้องเสียเวลาไปที่กรมขนส่ง และเป็นการลดภาระการตรวจสภาพรถจากทางกรมขนส่งอีกด้วย ผู้ใช้รถสามารถนำ รถเข้าตรวจสภาพ ก่อนเสียภาษีประจำปี เพื่อ ขอเอกสารการันตีว่ารถของเราปลอดภัยพร้อมใช้งาน สามารถขับขี่ได้โดยไม่เป็นอันตราย ไม่สร้างมลพิษในอากาศนั่นเอง
ความหมายของการประกันภัยรถ การประกันภัยรถ จัดเป็นการประกันวินาศภัยประเภทหนึ่ง ให้ความคุ้มครองแก่ผู้เอาประกันภัยเมื่อเกิดความสูญเสียหรือความเสียหายอันเกิดจากการใช้รถ ซึ่งการประกันความเสียหายอันเกิดจากการใช้ รถ ประกอบด้วย ความเสียหายที่เกิดแก่รถ ความเสียหายที่รถได้ก่อให้เกิดขึ้นแก่ชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก รวมทั้งบุคคลที่โดยสารอยู่ในรถนั้น สรุปความหมายของการประกันภัยรถ หมายถึง การที่บุคคลหนึ่งซึ่งเรียกว่า “ผู้เอาประกันภัย” ได้โอนความเสี่ยงภัยเกี่ยวกับรถไปให้บุคคลอื่นซึ่งเรียกว่า “ผู้รับประกันภัย” รับเสี่ยงภัยแทน โดยผู้เอาประกันภัยจะต้องจ่ายเงินจำนวนหนึ่งเรียกว่า “เบี้ยประกันภัย” ให้กับผู้รับประกันภัย เป็นการตอบแทนที่ผู้รับประกันภัยยอมรับความเสี่ยงภัยไว้แทน หากรถคันที่เอาประกันภัยไว้เกิดอุบัติเหตุ ทำให้เกิดความเสียหายแก่ตัวรถ หรือแก่ชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของบุคคลที่โดยสารอยู่ภายในรถ ตลอดจนบุคคลภายนอกที่ได้รับความเสียหายจากรถที่เอาประกันภัยคันดังกล่าว ผู้เอาประกันภัย จะได้รับการชดใช้ค่าเสียหายที่เรียกว่า “ค่าสินไหมทดแทน” โดยผู้รับประกันภัยจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ให้ตามจำนวนค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจริง แต่ไม่เกินจำนวนเงินที่ได้ตกลงทำสัญญาไว้ ประเภทของการประกันภัยรถ มี 2 แบบ 1 ประกันภัยรถภาคบังคับ (Compulsory Motor Insurance) หรือที่เรียกว่า ประกันภัย พ.ร.บ. ซึ่งรถทุกคัน ทุกชนิดต้องทำประกันภัยประเภทนี้ เนื่องจากถูกบังคับโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 ประกันภัยประเภทนี้ให้ความคุ้มครองและรับผิดชอบต่อความสูญเสียของชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของประชาชนผู้ประสบภัยจากรถเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น นาย อ. ขับรถไปชนคนที่กำลังเดินข้ามถนนได้รับบาดเจ็บ ประกันภัยรถภาคบังคับนี้จะรับผิดชอบเฉพาะค่ารักษาพยาบาลของคนเดินถนนที่ได้รับบาดเจ็บเท่านั้น หรือพูดง่ายๆ ว่า “ซ่อมคน ไม่ซ่อมรถ” 2 ประกันภัยรถภาคสมัครใจ (Voluntary Motor Insurance) เป็นการตกลงกันระหว่างผู้ซื้อ (ผู้เอาประกันภัย) และผู้ขาย (บริษัทประกันภัย) เป็นการเลือกซื้อความคุ้มครองประกันภัยตามความต้องการของผู้ซื้อโดยไม่มีผู้ใดบังคับซึ่งประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจนี้จะรับผิดชอบต่อความเสียหายส่วนที่เกินจากความรับผิดชอบของประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับนั่นเอง
Delivery (store)
- Hours
- วันหยุดนักขัตฤกษ์เฉพาะวันสำคัญMon15:00 - 17:00Tue15:00 - 17:00Wed15:00 - 17:00Thu15:00 - 17:00Fri15:00 - 17:00Sat12:00 - 15:00SunClosed
- Payment
- Cash on deliveryBank transfer
Basic info
วันหยุดนักขัตฤกษ์เฉพาะวันสำคัญ
- Mon08:00 - 17:00
- Tue08:00 - 17:00
- Wed08:00 - 17:00
- Thu08:00 - 17:00
- Fri08:00 - 17:00
- Sat08:30 - 15:00
- SunClosed
- ~ ฿100
- Visa
- Mastercard
- LINE Pay